การจัดการสตริงใน C++
— c++ — 1 min read
การจัดการกับสตริง (String) ในภาษา C++ เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก เนื่องจากสตริงเป็นข้อมูลชนิดหนึ่งที่ใช้ในการเก็บข้อความหรือตัวอักษร และเราสามารถดำเนินการต่าง ๆ กับสตริงเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย
นี่คือตัวอย่างการใช้งานการจัดการกับสตริงในภาษา C++:
#include <iostream>#include <string>
int main() { std::string message = "สวัสดีชาวโลก!";
// แสดงความยาวของสตริง std::cout << "ความยาวของสตริง: " << message.length() << std::endl;
// แสดงสตริงทั้งหมด std::cout << "สตริงทั้งหมด: " << message << std::endl;
// แสดงสตริงตัวอักษรที่ตำแหน่งที่กำหนด std::cout << "ตัวอักษรที่ตำแหน่งที่ 5: " << message[4] << std::endl;
// เปลี่ยนแปลงสตริงให้เป็นตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมด std::cout << "สตริงในรูปแบบตัวพิมพ์ใหญ่: " << uppercase(message) << std::endl;
// เปลี่ยนแปลงสตริงให้เป็นตัวพิมพ์เล็กทั้งหมด std::cout << "สตริงในรูปแบบตัวพิมพ์เล็ก: " << lowercase(message) << std::endl;
// ตรวจสอบว่าสตริงเป็นคำว่า "สวัสดี" หรือไม่ if (message.find("สวัสดี") != std::string::npos) { std::cout << "สตริงมีคำว่า 'สวัสดี'" << std::endl; } else { std::cout << "สตริงไม่มีคำว่า 'สวัสดี'" << std::endl; }
return 0;}`
ในตัวอย่างนี้ เราใช้คลาส std::string
เพื่อประกาศตัวแปร message
ที่เก็บสตริง "สวัสดีชาวโลก!" และใช้ฟังก์ชันและวิธีการต่าง ๆ ในการจัดการกับสตริงดังนี้:
length()
: เพื่อแสดงความยาวของสตริงoperator[]
: เพื่อแสดงตัวอักษรที่ตำแหน่งที่กำหนดuppercase()
: เพื่อเปลี่ยนแปลงสตริงให้เป็นตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมดlowercase()
: เพื่อเปลี่ยนแป ลงสตริงให้เป็นตัวพิมพ์เล็กทั้งหมดfind()
: เพื่อตรวจสอบว่าสตริงมีคำหรือตัวอักษรที่กำหนดหรือไม่
การใช้งานการจัดการกับสตริงในภาษา C++ ช่วยให้เราสามารถทำงานกับข้อความหรือข้อมูลที่เป็นสตริงได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันและวิธีการอื่น ๆ ในการจัดการกับสตริงอีกมากมาย เช่น ตัดสตริง, นำเข้าและส่งออกสตริง ฯลฯ ซึ่งช่วยให้เราสามารถปรับแต่งและประยุกต์ใช้สตริงให้เหมาะสมกับงานที่ต้องการได้อย่างยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ในภาษา C++ เราสามารถทำการต่อสตริง (String Concatenation) ได้โดยใช้ตัวดำเนินการบวก (+
) หรือฟังก์ชัน append()
ที่มีอยู่ในคลาส std::string
เพื่อรวมสตริงหลายๆ สตริงเข้าด้วยกัน เช่น:
#include <iostream>#include <string>
int main() { std::string firstName = "John"; std::string lastName = "Doe"; std::string fullName = firstName + " " + lastName;
std::cout << "Full Name: " << fullName << std::endl;
std::string greeting = "Hello"; greeting.append(" "); greeting.append(firstName); greeting.append(" "); greeting.append(lastName);
std::cout << "Greeting: " << greeting << std::endl;
return 0;}`
ในตัวอย่างนี้ เราประกาศตัวแปร firstName
และ lastName
เพื่อเก็บชื่อและนามสกุล และประกาศตัวแปร fullName
เพื่อเก็บสตริงที่ได้จากการต่อสตริง firstName
, เว้นวรรค, และ lastName
โดยใช้ตัวดำเนินการบวก (+
) เพื่อรวมสตริงเข้าด้วยกัน
เรายังใช้ฟังก์ชัน append()
เพื่อเพิ่มสตริงลงในสตริงที่มีอยู่แล้ว โดยในตัวอย่างนี้เราใช้ append()
เพิ่มสตริง "Hello"
, เว้นวรรค, firstName
, เว้นวรรค, และ lastName
เข้าไปในสตริง greeting
การต่อสตริงในภาษา C++ ช่วยให้เราสามารถสร้างสตริงที่ยาวกว่าและซับซ้อนขึ้นได้ โดยการรวมสตริงหลายๆ สตริงเข้าด้วยกัน ซึ่งช่วยให้เราสามารถจัดรูปแบบข้อความและสร้างข้อความที่แสดงผลตามที่ต้องการได้อย่างหลากหลาย