ตัวแปรแบบอาร์กิวเมนต์ (Argument variables) ในภาษา R
— R — 1 min read
ตัวแปรอาร์กิวเมนต์ในภาษา R
ในภาษา R, เราสามารถส่งค่าเข้ามายังฟังก์ชันได้ผ่านตัวแปรอาร์กิวเมนต์ (argument variables) ซึ่งเป็นตัวแปรที่ใช้เก็บค่าที่ส่งเข้ามาในฟังก์ชันเพื่อนำไปใช้งานภายในฟังก์ชันนั้น
นี่คือตัวอย่างโค้ดที่แสดงการใช้งานตัวแปรอาร์กิวเมนต์ในภาษา R:
my_function <- function(a, b) { sum <- a + b # การใช้งานตัวแปรอาร์กิวเมนต์ print(sum)}
my_function(5, 3) # ผลลัพธ์: 8`
ในตัวอย่างข้างต้น เราสร้างฟังก์ชัน my_function
ที่รับตัวแปรอาร์กิวเมนต์ a
และ b
เ ข้ามา ภายในฟังก์ชัน เราใช้ตัวแปร sum
เพื่อเก็บผลรวมของ a
และ b
และแสดงผลลัพธ์ด้วยฟังก์ชัน print
เมื่อเราเรียกใช้ฟังก์ชัน my_function(5, 3)
โปรแกรมจะทำการคำนวณผลรวมของ 5
และ 3
ซึ่งผลลัพธ์ที่แสดงคือ 8
การใช้งานตัวแปรอาร์กิวเมนต์ช่วยให้เราสามารถส่งข้อมูลและอาร์กิวเมนต์ไปยังฟังก์ชันและนำมาใช้งานในการประมวลผลของฟังก์ชันได้อย่างยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพ
ในภาษา R, เราสามารถกำหนดค่าเริ่มต้นให้กับตัวแปรอาร์กิวเมนต์ได้เพื่อให้มีค่าเริ่มต้นที่ถูกต้องในกรณีที่ไม่มีการส่งค่าเข้ามาในฟังก์ชัน
นี่คือตัวอย่างโค้ดที่แสดงการกำหนดค่าเริ่มต้นให้กับตัวแปรอาร์กิวเมนต์ในภาษา R:
my_function <- function(a = 0, b = 0) { sum <- a + b print(sum)}
my_function() # ผลลัพธ์: 0
my_function(5) # ผลลัพธ์: 5
my_function(5, 3) # ผลลัพธ์: 8`
ในตัวอย่างข้างต้น เรากำหนดค่าเริ่มต้นให้กับตัวแปรอาร์กิวเมนต์ a
และ b
ในฟังก์ชัน my_function
โดยกำหนดให้มีค่าเริ่มต้นเป็น 0
ซึ่งจะถูกใช้เมื่อไม่มีการส่งค่าเข้ามาในฟังก์ชัน
เมื่อเราเรียกใช้ฟังก์ชัน my_function()
โปรแกรมจะแสดงผลลัพธ์เป็น 0
เนื่องจากไม่มีการส่งค่าอาร์กิวเมนต์เข้ามาในฟังก์ชัน
เมื่อเราเรียกใช้ฟังก์ชัน my_function(5)
โปรแกรมจะคำนวณผลรวมของ 5
และค่าเริ่มต้น 0
ซึ่งผลลัพธ์ที่แสดงคือ 5
เมื่อเราเรียกใช้ฟังก์ชัน my_function(5, 3)
โปรแกรมจะคำนวณผลรวมของ 5
และ 3
ซึ่งผลลัพธ์ที่แสดงคือ 8
การกำหนดค่าเริ่มต้นให้กับตัวแปรอาร์กิวเมนต์ช่วยให้เราสามารถกำหนดค่าเริ่มต้นที่เหมาะสมและได้รับค่าอาร์กิวเมนต์ได้ตามที่ต้องการในกรณีที่ไม่ได้ระบุค่าเข้ามาในฟังก์ชัน